traveltuktee สวัสดีครับ
จากตอนที่แล้วผมได้แนะนำวัดเพลง(ร้าง) มาวันนี้ผมจะแนะนำวัดร้างอีกวัดหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับวัดเพลง(ร้าง)นั่นก็คือ วัดร้างสักน้อยครับ
การเดินทางมาวัดร้างสักน้อย เริ่มต้นจากหน้ามหาวิทยาลัยราชพฤษ์มุ่งหน้าไปเส้นทางอำเภอบางกรวยจะเจอซุ้มประตูวัดสักใหญ่...แต่วัดนี้ไม่ได้ร้างนะครับ...เราเพียงใช้เส้นทางผ่านวัดสักใหญ่เท่านั้น
เมื่อขับรถผ่านซุ้มประตูวัดสักใหญ่ให้เราขับรถตรงไปยังหลังวัดสักใหญ่เลยนะครับ ก็จะเจอถนนลูกรังรถสามารถวิ่งได้เลนเดียว ดังนั้นต้องรอรถว่างค่อยขับรถไปนะครับ สองข้างทางจะเป็นต้นหญ้าขึ้นสูงตลอดแนวและไม่มีเสาไฟฟ้าส่องสว่างถ้าไปตอนกลางคืนก็ให้นึกเอานะครับว่าบรรยากาศที่จะไปวัดสักน้อยจะน่ากลัวชวนขนหัวลุกขนาดไหน 555+ เมื่อเราขับรถไปได้ไม่ไกลก็จะเจอสามแยกให้เราเลี้ยวขวาครับ
เลี้ยวขวามาก็เจอทางอย่างที่เห็นครับ ไปตอนกลางวันบรรยากาศสองข้างทางจะร่มรื่น แต่ถ้าต้องการความสยองขวัญให้ไปช่วงกลางคืน รับรองจะได้ประสบการณ์ที่ไม่สามารถลืมได้เลย 555+เมื่อขับรถมาสุดทางให้เราเลี้ยวซ้าย แล้วก็...ไชโย...ถึงวัดแล้วครับ
จอดรถแถวบริเวณป้ายวัดสักน้อยครับ
เมื่อผมลงจากรถ...ผมก็พยายามมองหาโบสถ์วัด แต่มองเท่าไหร่ก็ไม่เจอ ผมเดินเข้าไปข้างในอีกไม่กี่เก้า...ก้อ...คุณพระช่วย...โบสถ์อยู่ตรงหน้าผมเอง ตอนขับรถเข้ามาเห็นบรรยากาศข้างทางก็สยองแล้ว...แต่พอมาเจอโบสถ์ยิ่งสยองกว่าหลายเท่า...มิน่าละ...คุณป้าบอกว่าหนังเรื่อง 5 แพร่ง ใช้วัดร้างสักน้อยเป็นที่ถ่ายทำ บรรยากาศวังเวงสุดๆ
ผมเอื้อมมือไปเปิดประตูสังกะสีเพื่อจะเข้าไปชมภายในโบสถ์ เสียงหมาหลายตัวเห่าหอนต้อนรับ...จังหวะนั้นผมก็เหลือบไปเห็นป้ายเขียนไว้ว่า...ระวังหมาดุ...ผมถอยกรูดออกมาตั้งหลักใหม่เอาไงต่อดีนะ...ยังไม่ทันได้คิดอะไร...ก็ได้ยินเสียงคุณป้าท่านหนึ่งมาแต่ไกล น้ำเสียงเป็นมิตรมากครับ...ผมมองตรงไปยังเสียงที่ได้ยิน...ก็พบร่างหญิงพอมีอายุท่านหนึ่งเดินตรงมาหาผม...แล้วพูดว่า...มาไหว้พระหรอลูก...
เชิญเข้าไปไหว้พระในโบสถ์กันก่อนนะลูก...
คุณแม่ผมก็ทักทายคุณป้าไปว่า...คุณป้าอยู่แถวนี้หรือคะ...คุณป้าตอบ...ใช่จ๊ะ...ป้าอยู่แถวนี้มาสามสี่ช่วงอายุคนแล้วจ๊ะ...ป้าจะคอยดูแลวัดนี้ไม่ให้ใครมาทำลายวัดได้จ๊ะ...ดีจังเลยคะคุณป้า...คุณป้ามีศรัทธาในพุทธศาสนาหนูขออนุโมทนาบุญด้วยนะจ๊ะคุณแม่ผมพูด...และคุณแม่ผมก็พูดต่อไปว่า...น้ำมันตะเกียง...ดอกไม้...คุณป้ามีไว้ให้บริการด้วยใช่ไหมจ๊ะ...ใช่จ๊ะ...ส่วนธูป...เทียน...เข้าไปเอาในโบสถ์ได้เลยจ๊ะ...ป้าเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว...ผมขอชุดหนึ่งด้วยนะครับแม่ผมจะเข้าไปไหว้พระด้วยครับ
นี่ครับได้มาหนึ่งชุดแต่เป็นดอกอะไรไม่รู้...ผมลืมถามคุณป้าครับ
ตอนอยู่นอกโบสถ์ผมรู้สึกขนลุกเพราะบรรยากาศวังเวง...แต่พอได้เข้ามาในโบสถ์ผมก็ขนลุกเหมือนเดิมแต่บรรยากาศเปลี่ยนไป...ผมรู้สึกศรัทธาในองค์พระองค์นี้มากครับ..ยิ่งได้กราบไหว้...ยิ่งมีความรู้สึกศรัทธา...รู้สึกถึงความเก่า...รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ...ได้ไหว้ท่านแล้วผมรู้สึกสบายใจ...และปิติยินดีในจิตใจมากเลยครับ....พระองค์นี้คุณป้าบอกว่าชาวบ้านละแวกนี้เรียกท่านว่า...หลวงพ่อสักน้อย
พระพุทธรูปในโบสถ์มีประมาณ 8 องค์
เสาไม้ภายในโบสถ์เหลือเพียงซากที่ปรักหักพัง ลงมานอนอยู่ที่พื้นบ่งบอกว่าผ่านกาลเวลามาอย่างยาวนานและเป็นเครื่องเตือนสติคนเราว่าทุกอย่างเกิดขึ้น...ตั้งอยู่...และดับไป...เห็นไหมละครับว่า...
ผมเข้าวัดไม่กี่วัดเริ่มมาแนวธรรมะแล้ว...เริ่มรู้ซึ้งในสัจจธรรมของพระพุทธองค์ 555+
กำแพงด้านหน้าตรงประตูทางเข้ามีสภาพทรุดโทรมมากครับ...ไม่รู้ว่าจะพังลงมาวันไหน...แต่เท่าที่ผมได้สอบถามพูดคุยกับคุณป้าผู้ดูแลวัดก็ได้คำตอบว่า...หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว...และจะมาทำนุบำรุงวัดสักน้อยในภายหลังครับ...เฮ้ย...ไม่ใช่ภายหลังที่โบสถ์ถล่มแล้วนะ 555+
ด้านหน้าโบสถ์มีทางเข้า-ออก สองช่อง...บนหลังคามีต้นไทรปกคลุมทั่วทั้งโบสถ์และรากของต้นไทรได้เลื้อยพันยึดติดกับโบสถ์ทุกด้านครับ
กองหินที่เห็นอยู่นี้เป็นเศษหินที่หล่นลงมาจากหลังคาโบสถ์ครับ
บรรยากาศโดยรอบของวัดเขียวขจีไปด้วยต้นไม้หลากสายพันธ์
มองไปสุดด้านในจะเป็นบ้านของคุณป้าผู้ดูแลและรักษาสมบัติของวัดครับ
เนินดินที่เห็นอยู่นั้นอยู่ด้านหลังวัด...คุณป้าผู้ดูแลวัดบอกให้ผมฟังว่าสมัยก่อนจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตั้งอยู่ตรงนั้นครับ...แต่ปัจจุบันพระพุทธรูปได้แตกหักพังทลายลงมาหมดแล้ว...จนไม่เห็นซาก...จะเห็นก็เพียงแต่เนินดินเท่านั้นครับ
................................................................................................................................................
ขอบคุณครับที่ติดตามชม อย่าลืมกดไลค์...กดแชร์...กดติดตามด้วยนะครับ
ติดตามผมได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น